Score:0

ฟังก์ชั่นการแฮชที่อนุญาตให้เดินกลับไปที่ส่วนต่าง ๆ ของข้อความที่ชัดเจน?

ธง in

พูด $m$ เป็นข้อความที่ชัดเจนและ $h_n(ม)$ เป็นของมัน $n$ แฮชบิต

คำถาม: เราจะออกแบบได้อย่างไร $h_n$ เพื่อให้เราสามารถดึงข้อมูลสูงสุดเกี่ยวกับ $m$ จาก $h_n(ม)$?


เหตุผลที่ฉันถามเพราะฉันคิดว่าถ้าเราตอบคำถามนั้นเราจะระบุคนที่สมบูรณ์แบบ สูญเสีย ฟังก์ชั่นการบีบอัด

และเหตุผลที่ฉันคิดว่าเป็นเช่นนั้นก็เพราะทุกๆ $n$ บิตใน $h_n(ม)$ มีข้อมูลเกี่ยวกับทุกบิตใน $m$.

หมายเหตุ: ฉันรู้ว่าถ้า $h_n$ เป็นไปตามเกณฑ์ในคำถามแล้ว จะไม่มีประโยชน์สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้ารหัสส่วนใหญ่อีกต่อไป

Score:1
ธง in

เพื่อรักษาข้อมูล คุณต้องทำให้เอาต์พุตมีขนาดใหญ่ขึ้น จำนวนข้อมูลสูงสุดที่เราสามารถเก็บรักษาไว้ได้ทั้งหมด สามารถทำได้โดย: เช่น ฟังก์ชันระบุตัวตน $h(m)=m$

เห็นได้ชัดว่าไม่มีการบีบอัดเลย ทฤษฎีสารสนเทศสอนเราว่าเราไม่สามารถบีบอัดข้อมูลทั่วไปได้ ข้อมูลบางอย่างสามารถบีบอัดได้ด้วยฟังก์ชันบางอย่าง แต่ไม่มีฟังก์ชันใดที่สามารถบีบอัดข้อมูลทั้งหมดได้

หากคุณกำลังมองหาการบีบอัดแบบสูญเสียข้อมูล คุณต้องตัดสินใจว่าข้อมูลใดมีความสำคัญน้อยกว่า ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีในภาพวิดีโอและเสียง แต่ไม่ใช่สำหรับข้อมูลทั่วไป สำหรับข้อมูลทั่วไป หากคุณไม่สนใจว่าคุณจะสูญเสียอะไรไป คุณสามารถตัดทอนข้อความและเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนได้ คุณจะไม่ได้อะไรดีไปกว่านี้จากเหตุผลทางทฤษฎีสารสนเทศ เอาต์พุตแฮช n บิตสามารถมีข้อมูลได้ไม่เกิน n บิต

หากคุณต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับข้อความที่ไม่สุ่มของโครงสร้างที่ไม่รู้จัก ฟังก์ชันแฮชการเข้ารหัสนั้นดีมาก ใช้เช่น SHA3-256 กับข้อความบีบอัดโดยพลการและคุณมีแนวโน้มที่จะได้รับข้อมูลเกือบ 256 บิต

น่าเศร้า (โชคดี) ที่พบชุดข้อความที่เป็นไปได้ซึ่งสร้างแฮชหรือพูดอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับพวกเขาอยู่นอกเหนือเรา

โพสต์คำตอบ

คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าการถามคำถามมากมายจะปลดล็อกการเรียนรู้และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาของ Alison แม้ว่าผู้คนจะจำได้อย่างแม่นยำว่ามีคำถามกี่ข้อที่ถูกถามในการสนทนา แต่พวกเขาไม่เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างคำถามและความชอบ จากการศึกษาทั้ง 4 เรื่องที่ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการสนทนาด้วยตนเองหรืออ่านบันทึกการสนทนาของผู้อื่น ผู้คนมักไม่ตระหนักว่าการถามคำถามจะมีอิทธิพลหรือมีอิทธิพลต่อระดับมิตรภาพระหว่างผู้สนทนา